Final Fantasy เป็น ซีรี่ย์เกมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และ ยังจัดได้ว่าเป็นเกมแนว RPG ยุคแรกที่ได้ผนวกมนต์อสูรสำหรับการต่อสู้เข้ามาไว้ในเกมอีกด้วย เพื่อเพิ่มพลังการและความสวยงามอลังการมากยิ่งขึ้นไปอีก แน่นอนว่าภายในเกมนั้นการได้รับมนต์อสูรจะมีเงื่อนไขของการได้มานั้นยากง่ายแตกต่างกันไปในแต่ละภาค สิ่งที่พิเศษไปกว่านั้น คือ มนต์อสูรเหล่านี้เป็นตัวตนที่มีตำนานอยู่จริง
หากนับการเรียกมนต์อสูรนั้น จุดเริ่มต้นมาจาก Final Fantasy 3 ซึ่งการเรียกนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยแล้วแต่ยุคสมัยของโลกนั้นๆ ซึ่งภายในภาค 3 นั้นจะมี มนต์อสูร 8 ตัว คือ Chocobo, Shiva, Ramuh, Ifrit, Titan, Odin, Leviathan และ Bahamut ทำให้บางมนต์อสูรกลายเป็นขาประจำของเกม ซีรีย์นี้ไปแล้ว นอกเหนือจาก Chocobo ที่นับว่าเป็นสัญลักษณ์ของ Final Fantasy ปรากฏตัวครั้งแรกในภาค 2 และ มีเกมแยกเป็นของตัวเองด้วยอย่าง Chocobo’s Dungeon, Chocobo World หรือ Chocobo Racing เป็นต้น
มนต์อสูรที่ปรากฏในเกม Final Fantasy
ราชินีน้ำแข็งชีวา Shiva
มนต์อสูรจ้าวน้ำแข็ง ที่มีแข็งแกร่งขาประจำของเกม Final Fantasy Series มีท่าไม้ตายประจำตัว คือ Diamond Dust (Gem Dust ในบางภาค) เรียกได้ว่าเป็นมนต์อสูรที่มีความสำคัญตั้งแต่ต้นเกมจนถึงกลางเกม พลังทำลายรุนแรง มีจุดเด่นด้านการใช้พลังโจมตีด้วยน้ำแข็ง
ที่มาของมนต์อสูร Shiva มาจาก ตำนานของความเชื่อศาสนาพราหมณ์-ฮินดู คือ พระศิวะ ซึ่งเป็นหนึ่งในตำนานสามเทพพระตรีมูรติ มีหน้าที่เป็น เทพแห่งการทำลาย หยิบมาผนวกกับ สตรีหิมะยูกิอนนะ วิญญาณแห่งฤดูหนาว
อสูรเพลิงอีฟริท Ifrit
Summon Ifrit
มนต์อสูรแห่งเปลวเพลิงนรก อีกหนึ่งมนต์อสูรขาประจำของ Final Fantasy Series มีท่าไม้ตายประจำตัว คือ Hellfire (Inferno Flame ในบางภาค) มักจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นของเกม พลังทำลายรุนแรง มีจุดเด่นด้านการใช้พลังโจมตีด้วยเพลิงนรกโลกันต์
ที่มาของมนต์อสูร Ifrit มาจาก ตำนานความเชื่อของชาวอาหรับโบราณ ยักษ์แห่งไฟผิวสีแดงเข้มผู้มีนิสัยโหดร้ายและทารุณ
ราชาแห่งสายฟ้า Rumuh
มนต์อสูรอัสนีบาตรกัปนาท เป็นราชาเทพแห่งสายฟ้า อีกหนึ่งมนต์อสูรที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคู่บุญของ Final Fantasy Series Series มีท่าไม้ตายประจำตัว คือ Judgement Bolt จอมเวทย์เคราขาวผู้ใช้เวทย์สายฟ้าฟาด มีพลังโจมตีสายฟ้าที่รุนแรงมาก
ที่มาของมนต์อสูร Rumuh มาจาก ถูกหยิบยกมาจากตัวละครเอกจากพงศวดารเรื่องรามเกียรติ์ คือ “พระราม”
วิหคเพลิงอมตะ Phoenix
มนต์อสูรแห่งเปลวเพลิง อีกหนึ่งมนต์อสูรขาประจำของ Final Fantasy Series ท่าไม้ตายประจำตัว คือ Rebirth Flame ที่มีความสามารถในการคืนชีพ เป็นอีกหนึ่งมนต์อสูรที่มักจะถูกกล่าวถึง นอกเหนือจากเกม Final Fantasy อีกด้วย เพราะความพิเศษของตำนานจากความเป็นจริงนั่นเอง
ที่มาของมนต์อสูร Phoenix มาจาก ฟีนิกซ์ปรากฏในปกรณัมของอียิปต์โบราณและกรีกโบราณ เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเทพแห่งไฟ เมื่ออายุครบ 1,000 ปี มันจะสิ้นอายุขัยลง แต่ว่ากองขี้เถ้าจากการเผาไหม้ของตัวนกนั้น จะก่อกำเนิดเกิดร่างขึ้นมาใหม่เป็นนกฟินิกซ์อีกครั้ง ทำให้ถูกขนานนามว่า วิหคเพลิงอมตะ
หมาสามหัวแห่งนรก Cerberus
มนต์อสูรหมาสามหัวมีหน้าที่คอยเฝ้านรกอันแสนดุร้าย ปรากฏตัวในเกม Final Fantasy ภาค 8 อันเป็นที่น่าจดจำ ถึงอย่างไร มนอสูรตัวนี้ก็เป็นสาย Support ที่จะส่งผลให้ตัวละครมีความสามารถร่ายเวทย์มนตร์แบบ Double และ Triple ได้
ที่มาของมนต์อสูร Cerberus มาจาก หมาสามหัวผู้เฝ้าประตูเชื่อมต่อระหว่างแห่งเทพนิยายกรีก สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่แม้แต่เทพเจ้ากรีกยังขยาดกลัว 3 หัวของเซอร์เบอรัส เป็นเครื่องหมายที่แทนด้วยเรื่องราวของอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต
อสูรร้ายแห่งท้องทะเล Leviathan
หนึ่งในมนต์อสูรขาประจำของ Final Fantasy Series ด้วยกระแสธารน้ำที่รุนแรง เจ้าแห่งท้องทะเลผู้สร้างเกลียวคลื่น ผู้นำพาซึ่งภัยพิบัติแห่งท้องทะเล
ผู้ปกครองดินแดนแห่งผืนน้ำ กระแสน้ำที่กรรโชกและรุนแรง Leviathan ส่วนใหญ่จะสร้าง Tsunami เป็นท่าไม้ตายประจำตัว (Tidal Wave ในบางภาค) ความรุนแรงของท่า สามารถพัดทำให้ศัตรูหายไปได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องต่อสู้ ซึ่งมักปรากฏกายออกมาในรูปลักษณะของมังกรน้ำตัวใหญ่
ที่มาของมนต์อสูร Leviathan มาจาก คัมภีร์พันธะสัญญาเก่าของคัมภีร์ไบเบิ้ล กลายถึงสัตว์ร้ายในยุคสร้างโลกของพระเจ้า และ ยังเป็น 1 ในมหาบาปทั้ง 7 ตัวแทนของความอิจฉา ริษยา
อัศวินม้าขาว Odin
Summon Odin
มนต์อสูรอัศวินสุดเท่ที่กวัดแกว่งดาบ มักจะมาพร้อมกับม้าแปดขา สร้างความประทับใจได้เสมอ เป็นมนต์อสูรตัวสำคัญ ท่าไม้ตายประจำตัว คือZantetsuken ที่สามารถสังหารให้ศัตรูตายได้ในดาบเดียว จึงเป็นมนต์อสูรอีกหนึ่งตนที่ผู้เล่นชื่นชอบกันมาก
ที่มาของมนต์อสูร Odin มาจาก มหาเทพผู้ปกครองสูงสุดแห่งวัลฮาร่าของชาวนอร์ส เป็นเทพเจ้าที่มักจะใฝ่หาความรู้ อยู่ ณ ดินแดนแอสการ์ด ตัวแทนของ เทพแห่งปัญญาและภูมิความรู้
หุ่นยนต์ปราสาทแห่งแสง Alexander
ป้อมปราการศักดิ์สิทธิ์ (Final Fantasy IX) เป็นมนต์อสูรที่ปรากฏอยู่ใน Final Fantasy ค่อนข้างบ่อยถ้าหากไม่เป็นมนต์อสูรก็จะเป็นเมืองใดเมืองหนึ่งภายใน Final Fantasy ท่าไม้ตายประจำตัว คือ Holy Judgment ลำแสงศักดิ์สิทธิ์จากพระเจ้า ที่มีพลังทำลายอย่างรุนแรง
ที่มาของมนต์อสูร Alexander มาจากเมืองอเล็กซานเดอร์ที่อยู่ในยุคสมัยโบราณ ไข่มุกแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเขตการปกครองของอียิปต์ในยุคโบราณ เป็นเมืองที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชได้กรีฑาทัพมายึดครอง และ ยังถูกนับเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคโบราณ
เจตภูตแห่งท้องทะเล Siren
Summon Siren
มนต์อสูรที่มีลักษณะรูปร่างคล้ายกับผู้หญิง ซึ่งมีอยู่น้อยมาก ปรากฏอยู่บ่อยครั้งในภาคต่างๆของ Final Fantasy ท่าไม้ตายประจำตัว คือ Silent Voice (เสียงแห่งความเงียบ) เป็นคลื่นเสียงที่มีความไพเราะ
ที่มาของมนต์อสูร Siren มาจากตำนานของไซเรนภูติแห่งท้องทะเล ยุคสมัยการใช้เรือเฟื่องฟู จะมีเสียงร้องสุดไพเราะและยั่วยวนกับผู้ที่เดินทางในทะเลเพื่อล่อให้เข้าไปหา และ จับกินเป็นอาหาร
เทพแห่งความตาย Hades
เป็นมนต์อสูรที่มาในลักษณะเสมือนยมทูตแห่งความตาย การปลดปล่อยพลังจึงทำได้แค่เพียงบางส่วนเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นพลังแค่เพียงบางส่วนจากเทพแห่งความตายแต่ก็ทำให้ น่ากลัวยิ่งกว่าใคร เพราะ การดับสูญสิ้นด้วยการโจมตีของ Hades จะมอบสถานะผิดปกติ 9 โรคร้ายพร้อมกับพลังโจมตีที่รุนแรง
ที่มาของมนต์อสูร Hades มาจากเทพเจ้าแห่งนรกของตำนานกรีกโบราณ ผู้ปกครองนรกซึ่งมีแต่ความมืดมิดและน่ากลัวอยู่ในดินแดนยมโลก มี Cerberus คอยเฝ้าประตูสู่นรก
อสูรกายแห่งความมืดจากขุมนรก Anima
เป็นมนต์อสูรที่ถูกหยิบยกมาทำใน Final Fantasy ภาค X หรือ ภาค 10 นั่นเอง เป็นอสูรแห่งความมืดที่แลกมาด้วยอดีตอันน่าเศร้า ด้านบนเป็นอสูรมีร่างคล้ายมนุษย์ที่ถูกพันธนาการ ด้านล่างเป็นปิศาจแห่งความเคียดแค้น ท่าไม้ตายประจำตัว คือ Oblivion เป็นท่าที่จะดึงดูดศัตรูให้ดำดิ่งลงสู่มิติมืด เป็นมนต์อสูรที่มีพลังการทำลายล้างสูงสุดเท่าที่เคยมีมา (โจมตีถึง 16 hits) สาเหตุที่ Anima กลายเป็นอสูรกายแห่งความมืดเนืองจากเคยเป็นมารดาของ Seymour และปล่อยให้ลูกชายโดนความมืดมิดกลืนกินเป็นมารร้าย จึงกลายเป็นเหตุของความผิดบาปติดตัวจนกลายเป็นอสูร
ที่มาของมนต์อสูร Anima ถูกหยิบยกแนวความคิดมาจาก เครื่องทรมานและเครื่องประหารที่เรียกว่า Iron Maiden หรือที่เรียกว่า สตรีเหล็กแห่งความอับอาย ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาจากการสมคบคิดถึงการปราบปรามแม่มดและคนอื่นๆที่ต่อต้านศาสนจักร
ราชันย์เทพมังกร Bahamut
King of Dragons มังกรอสูรราชันย์แห่งท้องนภาผู้ปกครองแผ่นฟ้า มนต์อสูรระดับสูง และ มีพลังโจมตีที่รุนแรงมหาศาล ราชามังกรบาฮามุท มีท่าไม้ตายประจำตัว คือ Mega Flare ซึ่ง Bahamut ปรากฏขึ้นตั้งแต่ Final Fantasy ภาค 1 แต่ว่าเป็นเพียง NPC กล่าวได้ว่าเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของ Final Fantasy เลยทีเดียว Bahamut เป็นหนึ่งในมนต์อสูรที่ถูกอัญเชิญมากที่สุด นอกจากนี้ใน Final Fantasy ภาค 7 นอกเหนือจาก Bahamut ปกคิแล้วยังมีการปรากฏร่างอื่นๆของ Bahamut อีกจำนวนมาก ได้แก่ Neo Bahamut, Bahamut ZERO, Bahamut SIN และ Bahamut Fury ซึ่งชื่อท่าไม้ตายก็จะเปลี่ยนไปเป็น Giga Flare และ Tera Flare เป็นต้น
ที่มาของมนต์อสูร Bahamut มาจากตำนานอาหรับความเชื่อของของศาสนาอิสลาม ปลาโบราณขนาดใหญ่มหึมาที่มีหน้าที่แบกโลกไว้ข้างหลัง
อัศวินโต๊ะกลม Knight of Round
เป็นหนึ่งใน สุดยอดมนต์อสูร ที่มักจะถูกกล่าวถึงอยู่เสมอๆ แม้ว่าอาจจะไม่ปรากฏตัวออกมาบ่อย แต่มักจะมาแบบอลังการงานสร้างเสมอด้วยท่าไม้ตายประจำตัว คือ Ultimate End จากการโจมตีของอัศวินทั้งหมด 13 คน จากอาวุธต่างๆที่แตกต่างกัน
อัศวินคนแรกโจมตีด้วยดาบยาว Rune Blade
อัศวินที่สองโจมตีด้วยหอก
อัศวินที่สามโจมตีด้วยเวทมนตร์ Fire
อัศวินที่สี่โจมตีคทา
อัศวินที่ห้าโจมตีด้วยดาบยาว
อัศวินที่หกโจมตีด้วยค้อน
อัศวินที่เจ็ดโจมตีเวทมนตร์ Blizzard
อัศวินที่แปดโจมตีด้วย Trident
อัศวินที่เก้าโจมตีด้วยเวทมนตร์ Comet
อัศวินที่สิบโจมตีนากินาตะ
อัศวินที่สิบเอ็ดโจมตีด้วยขวานต่อสู้
อัศวินที่สิบสองโจมตีด้วยดาบ
อัศวินที่สิบสามโจมตีด้วยดาบเอ๊กซ์คาลิเบอร์
ที่มาของมนต์อสูร Knight of Round ถูกอ้างอิงมาจากกลุ่มอัศวินโต๊ะกลมของกษัตริย์อาเธอร์ เป็นกลุ่มคนที่ได้รับแต่งตั้งเกียรติยศอย่างสูงสุดในราชสำนักของกษัตริย์อาเธอร์ โดยมีปรากฏให้เห็น 26 คน ซึ่งตามตำนานกล่าวว่าเรื่องจริงมีตั้งแต่ 25 – 150 คน ถ้าหากยึดหลักตามบันทึกในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1270 จะมีรายชื่ออัศวินปรากฏให้เห็นทั้งสิ้น 25 คน (ไม่รวม King Arthur) ซึ่งอัศวินที่มีชื่อเสียงได้แก่ เซอร์ลานเซลอต, เซอร์เบดิเวียร์ และ เซอร์เคย์ เป็นต้น